
วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2551
นอนแบบไหน

วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2551
เดินทางอีกรอบ
แม่มาเคาะห้องปลุกตอนประมาณตี1กว่า เสียงเคาะประตูเข้าไปมีส่วนร่วมในฝันเลยแต่จำไม่ได้หรอกว่าฝันว่าอะไรแต่จำเสียงเคาะประตูได้ชัดเจน เกือบไม่ตื่นแล้วเดินทางกันโดยขับรถไปใช้เวลาประมาณ1-2ชั่วโมง ไปถึงแกงคอยประมาณ 6โมงกว่าๆเช้าตรู่พอดี ก็เลยแวะกินข้าวกันที่ตลาดบรรยากาศในตลาดดูสบายๆไม่วุ่นวายคนแถวนั้นก็ไม่ต้องรีบเร่งรีบร้อน แย่งอะไรกะน อย่างที่สำคัญเลยก็คือคนแถวนั้นไม่ต้องมีทนรถติดเลย การเดินทางสะดวกสบายมากๆ แถมอากาศดีสุดๆร้านค้าในตลาดก็ขายของเหมือนกันกับที่กรุงเทพ แต่ที่แตกต่างกันก็คือของที่ตลาดเค้าไม่ร้านไม่เยอะและคนก็ไม่เยอะเท่า ของถูกอีกด้วยร่วมๆแล้วบรรยากาศน่าอยู่ อากาศดี แต่จะให้อยู่เลยคงจะไม่ไหวเพราะเราคงจะไม่คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตแถวนั้นสักเท่าไหร่ แต่ก็เหมาะที่จะไปพักผ่อน ไปเที่ยวแค่ช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้นแต่เสียดายที่ไม่มีรูปมาให้ดูเพราะว่าไม่ได้ไปเที่ยวแต่ไปทำธุระกัน
แต่พอกับมาถึงบ้านเปิดTVดูก็มีแต่ข่าวประท้วงกันของพันธมิตร ไปประท้วงปิดสนามบินด้วย โชคดีที่เอแบคไม่ได้อยู่แถวนั้นไม่งั้นคงจะแย่ ดูวุ่นวายมากๆไม่อยากจะเปิดTVดูเลย
mini โอลิมปิก
วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2551
LASIK

RIhanna

เพลงเพลงนี้เป็นซิงเกิ้ลนึงในอัลบั้ม Good girl gone badครับ เพลงนี้มีชื่อว่า Disturbia แต่พอเราไปเปิดในDicแล้วนั้นอาจจะไม่เจอความหมายของมันนะครับ ตอนแรกๆผมก็งงๆเหมือนกันว่าแปลว่าอะไรกันแน่ แต่พอดูMVของเธอแล้วก็น่าจะแปลว่าประสาทหล่อน ประมาณนี้มั้งครับ ตอนนี้เพลงนี้ขึ้นอันดับหนึ่งBillboard chart เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ เพลงของเธอทำออกมาได้มันจิงๆครับแค่ฟังเฉยๆยังไม่ดูเอ็มวีก็มันแล้วครับ แต่พอยิ่งมาดูเอ็มวีอีกเนี้ยสุดๆเลย โดยส่วนตัวผมชอบมากเลยครับ มันดูเหมือนหนังไซเรนฮิวยังไงก็ไม่รู้หล่อนๆดีครับ ผมเลยเอาแต่เพลงมาแปะให้ฟังดูนะครับ ถ้าเพื่อนๆคนไหนชอบก็ลองไปหาเอ้มวีดูนะครับ
ตั้งแต่ที่ผมติดตามผลงานของเธอมานะครับ อัลบั้มนี้ผมว่าเทอสวยสุดโดยเฉพาะทรงผมของเทอนะครับดูสวยดี ปกติผมก็ไม่เคยมองว่าเทอสวยเท่าไหร่หรอก แฮะๆๆแต่ลองดูครับ อันนี้เทอดูสวยจิงๆ
วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2551
อาหารล้างพิษ

วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2551
Finally
ดังนั้นเราเลยเลือกที่จะนั่งรถไฟ JR Express ข้ามเมืองจากNaritaไปTokyoใช้เวลา1ชั่วโมงเท่านั้น แต่ค่ารถไฟคิดเป็นเงินไทยแล้ว 4คนไปกลับก็เกือบหมื่น ไม่น่าเลย แต่ก็ทำใจเพราะรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นยังไง ดีกว่ามาถึงช้าแล้วต้องไปเบียดกันเป็นปลากระป๋อง

และแล้วก็มาถึงshinjukuอย่างปลอดภัย ถึงแม้ว่าshinjukuจะเป็นแหล่งshoppingแต่เราก็ไม่สามารถรู้จักมันได้ทุกซอกทุกมุมดังนั้นเราเลยเดินวนรอบshinjukuเลยก็ว่าได้หรือเรียกอีกอย่างนึงว่าหลง
ร้านแรกที่เข้าไปก็คือร้าน100Yenคือทุกอย่างร้อยเยน คล้ายๆกับบ้านเราที่ขายทุกอย่าง60บาทแต่ของเค้าคุณภาพดีเกินกว่าจะจ่ายแต่100เยนจากนั้นก็เข้าร้านเกมสรุปแล้วก็พุดกับคนขายไม่รู้เรื่องถามเป็นภาษาอังกฤษแต่เค้าก็ตอบกลับมาเป็นญี่ปุ่น แล้ววันนี้จะเข้าใจกันมั๊ย? แล้วก็ต่อด้วยอีกหลายที่......
ขากลับไปโรงแรม เลือกJR Expressอีกเช่นเคยเนื่องจากเร็วดีแล้วก็มีที่นั่งทุกคนตามตั๋วรถไฟสบายเร็ว ไม่วุ่นวาย ต้องรีบไปเก็บของเพราะว่าต้องขึ้นเครื่องกลับตอนเช้า แต่ก็อีกวันกลับจริงนึกว่าสนามบินจะแตกคนจะเยอะไปไหนกว่าจะผ่านเข้าgateไปได้เกือบตกเครื่อง เสียดายไม่ได้ซื้อTokyo banaba........กลับไปโดยสวัสดิภาพ ปลอดภัย เมืองไทยร้อนมาก
วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2551
Japan2


มีความสุขกับการshoppingก็กลับโรงแรมนอนอย่างสบายใจ จบไปอีก1วัน
วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2551
Japan!!
วันแรกมีplanว่าจะไปกันสองถึงสามที่ที่แรกก็คือ Imperial Palace
ระหว่างที่นั่งรถไปมองออกไปนอนหน้าต่างเห็นคุณลุงคนนึงนั่งถอดเสื้ออ่านหนังสืออยู่ที่สวนสาธารณะก็สงสัยว่ามันร้อนขนาดนั้นเลยหรอ แต่พอได้ลงจากรถเท่านั้นแหละ ก็รู้ถอดเสื้อนี่มันยังน้อยไปเลย ไม่รู้ทำไมอากาศถึงได้ร้อนขนาดนั้น พอไปถึงที่ก็ไม่มีอะไรมากเข้าไปก็ไม่ได้ต้อวยืนอยู่ห่างๆแบบว่าห่างมากๆ

ระหว่างที่อยู่บนเรือเจอเด็กฝรั่ง2คนคาดว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวเหมือนกันเรายืนเล่นกันน่ารักมาก แต่พอเราถ่ายรูปกลับนั้นยืนนิ่งเป็นหุ่นซะอย่างนั้น แต่ก็ยังน่ารักอยู่ดี หลังจากนั้นก็กลับโรงแรมบรรยายกาศของโรงแรมดูเหมือนว่าจะดีอยู่ใกล้ภูเขาไฟฟูจิ วิวนอนหน้าต่างพอมองออกไปจะเห็นภูเขาไฟฟูจิอยู่ใกล้ๆ แต่เนื่องจากเหนื่อยมากเราเลยไปสนใจบรรยากาศหลับเป็นตาย จบวันแรกไปกับความเหนื่อย
วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2551
วิธีอ่านหนังสืออย่างมีประสิทธิ์ภาพ

ครับผ่านไปกับข้อสอบมิดเทอมสุดแสนจะทรหดกันครับ เพื่อนๆหลายคนเคยสงสัยไหมว่าทำอ่านกันแทบตายไม่ไม่เข้าหัวเลยไม่จำวันนี้ผทอยากจะมาแชร์วิธีการอ่านหนังสือของผมดูมั้งเผื่อว่าเพื่อนๆอาจได้เอาไปใช้นะครับ อันดับแรกเลยนะครับผมจะปิดพวกทีวีคอมพิวเตอร์ถึงแม้ว่าเราไม่ได้ดูก็ตามก็ต้องปิดครับ เพราะมันจะทำให้เราวอกแวกไม่มีกะจิตกะใจในการอ่านครับ ขั้นต่อไปครับเกี่ยวกับแสงสว่างด้วยสว่างมากไปก็ทำให้เราอ่านไม่นานเพราะจะทำให้เราแสบตาไปครับแต่ถ้าแสงน้อยไปอาจจะทำให้หลับได้ กาแฟสำหรับบางคนอาจจะช่วยให้ไม่ง่วงได้ครับแต่ว่าบางคนทานไปทำให้ใจสั่นก็มี อันนี้ขึ้นอยู่แต่ละคนนะครับเวลาอ่านก็สำคัญครับควรหาโต๊ะที่พอดีกับตัวเราไม่สูงไปไม่เตี้ยไปมันงั้นจะเมื่อยได้ครับ แล้วก็ห้ามนอนอ่านด้วยครับรับรองเลยว่าหลับแน่ๆ
เพื่อนๆลองไปใช้ดูนะครับเผื่อว่าจะช่วยให้คะแนนดีขึ้นกันบ้างแล้วไว้คุยกันใหม่ครับ
Bejing Olympic

นี้คือสนามกีฬาของเค้าครับ เหมือนรังนกใช่ไหมละครับ

ส่วนนี้คือสระว่ายน้ำครับ ออกแบบคล้ายกับฟองสบู่


วันแม่นี้พาแม่ไปไหนกัันดี
วันนี้ผมเลยเอาร้านๆนึงมาแนะนำให้เพื่อนๆได้ดูกัน เผื่อว่าบางคนอาจจะพาคุณแม่ไปก็ได้

ร้านนี้ก็คือร้าน water side ครับเป็นร้านอาหารที่น่าไปทานพอสมควรเลยละด้วยทั้งบรรยากาศที่แสนสวย และ อาหารที่แสนจะอร่อยนั้นเองครับ
ราคาก็ไม่ได้ถือว่าแพงมากครับ เมื่อเทียบกับการนั้งทานอาหารอร่อยๆในที่บรรยากาศดีๆแบบนี้แล้วผมคิดว่าคุ้มกับเงินที่เราเสียไปครับ
ร้านwater side ตั้งอยู่ตรงเลียบทางด่วนรามอินทราถ้ามาจากถนนรามอินทราก็จะอยู่ตรงตีนสะพานข้ามถนนเกษตร นวมินทร์ พอดีครับ
เพื่อนๆสามารถเข้าไปชมเว็บไซด์ของwater sideได้ครับที่ http://www.waterside-bkk.com/